ไปทำบอนไซ 💓 ชมโรงงานป๊อกกี้ 💓 ดูไฟสองล้านดวงที่ Saitama กันค่ะ

สวัสดีค่ะ 

วันนี้ทีมงานจะมาแนะนำสถานที่สวยๆ และน่าสนใจที่จังหวัด Saitama กันค่ะ 

จังหวัด Saitama ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของ Tokyo เดินทางไม่กี่สิบนาทีก็ถึงกันแล้วค่ะ ซึ่ง Saitama นั้นมีธรรมชาติและสถานที่อันน่าสนใจหลากหลายเลยค่ะ เราไปชมกันเลย 



เราไปเริ่มกันที่ Bonsai Art Museum 💓  http://www.bonsai-art-museum.jp/en/




การเดินทาง 💓 เดินทางจากสถานี  Toro ของสาย JR-Utsunomiya line 5 นาที 



เวลาบริการ 💓

😌  มีนาคมถึงตุลาคม ตั้งแต่เวลา 9:00-16:30 น. 
😌  พฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 9:00-16:30 น.  
😌  เข้าก่อนปิด30นาที
😌  วันหยุด ทุกวันพฤหัส(ยกเว้นวันหยุดราชการ) และวันสิ้นปี 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม *หรือปิดช่วงมีการเตรียมงานแสดงนิทรรศการหรือการประกวดบอนไซ  



ค่าเข้าชม 💓ผู้ใหญ่ 300 เยน  😌 นักเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยและผู้อายุเกิน 65 ปี 150 เยน  😌 นักเรียนประถม 100 เยน มี Audio guide ภาษาอังกฤษ ไว้บริการด้วยค่ะ 

หมายเหตุ 💓 ที่ด้านในส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ ไม่สามารถถ่ายภาพได้ค่ะ (ส่วนทีมงานได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพเพื่อมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ )



ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับการชมบอนไซที่นำมาจ้ดแสดงตลอดทั้ง 4 ฤดู ทั้งฤดูใบไม้ผลิ ร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีและหนาว ซึ่งเราสามารถมาชมความงามของบอนไซในแต่ละฤดู และได้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีบอนไซเมเปิ้ล ส่วนในฤดูใบไม้ผลิมีบอนไซซากุระ ค่ะ  

ซึ่งทางทีมงานไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็เลยได้ภาพสวยๆ ของต้นไม้ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมาฝากกัน 



เราไปเที่ยวโซนในอาคารกันก่อนค่ะ 



การชมบอนไซอย่างมีอรรถรสนั้นต้องจินตนาการ พร้อมย่อตัวก้มไปดูความยิ่งใหญ่ของศิลปะการดูแลบอนไซจากการย่อส่วนต้นไม้ใหญ่ๆ ลงมาในกระถางเล็กๆ ได้อย่างสวยงาม 






นิทรรศการการดูแลบอนไซค่ะ 




 โซนกลางแจ้งค่ะ







ไหนๆ ก็มาชมบอนไซแล้ว ก็ไปลองทำบอนไซด้วยตัวเราเองที่หน้าพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นร้านอาหารด้วยค่ะ ที่ร้าน Bonsai Restaurant 



การเดินทาง 💓 เดินทางจากสถานี  Toro ของสาย JR-Utsunomiya line 5 นาที 



เวลาบริการ 💓 ทำช่วงเช้าก่อนทานอาหารกลางวัน เพื่อนๆ สามารถจองล่วงหน้าได้ที่ 

http://www.bonsairestaurant.jp/en/index.html

ค่าใช้จ่าย 💓 3500 เยน รวมเซ็ตอาหารกลางวัน 

หมายเหตุ 💓 สำหรับคนญี่ปุ่นสามารถนำบอนไซที่ทำนั้นกลับบ้านได้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวไทยก็สามารถให้ส่งกลับมาทางเมืองไทยได้ แต่ต้องศึกษาเรื่องการนำเข้าต้นไม้จากต่างประเทศกับทางศุลกากรไทยด้วยนะคะ 

เราไปเริ่มทำกันเลยค่ะ ทางผู้สอนของที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ดีเลยค่ะ  



1. เราเอาต้นไม้ออกจากถุงและเอาดินออกให้หมดก่อนค่ะ 



2. นวดดินให้นุ่มค่ะ 




3. ใส่ทรายพิเศษลงไปในดิน 



4. นำต้นไม้ลงไปแล้วใช้ดินหุ้มรากไว้ค่ะ 



จะได้เป็นแบบนี้ 



5. จากนั้นก็ใช้เชือกรัดรอบๆ ค่ะ 



แล้วผลงานของเราก็เสร็จแล้วค่ะ 



ขอบอกว่าขนมของที่นี่อร่อยมากค่ะ 



หิวข้าวกลางวันแล้ว เราไปทานข้าวแกงกระหรี่ที่ร้าน Sanuki Musashino Udon Miori กันค่ะ 



การเดินทาง 💓 ลงสถานี Kitamoto แล้วเดินต่อ 14 นาที หรือว่านั่งรถแท็กซี่ 6 นาทีค่ะ 



เวลาบริการ 💓 10:30-15:00 น. และ 17:00-22:00 น. (LO 21:30 น.)


ค่าใช้จ่าย 💓 ราคาเริ่มต้นจานละ 650 เยน แต่เป็นเซตมินิอุด้ง ราคา 780 เยน 



หมายเหตุ 💓 ที่ร้าน Kitamoto Tomato Curry ได้รับรางวัลชนะเลิศ Curry Festival ปี 2014และปี 2016 ค่ะ 




บรรยากาศในร้านค่ะ 



ที่นี่ใช้มะเขือเทศผลิตผลของ Saitama ซึ่งจุดเด่นของ Kitamoto Tomato Curry มี 3 อย่าง คือ ข้าวเป็นสีแดงด้วยมะเขือเทศ 💓  ตัวซ๊อส Curry Roux ทำมาจากมะเขือเทศ 💓 ใช้มะเขือเทศเป็นท็อปปิ้ง



ทานกันเลยค่ะ 



ต่อมาเราจะพาเพื่อนๆ ไปยัง Glicopia East หรือ โรงงานป็อกกี้กันค่ะ 




การเดินทาง 💓 เมื่อเพื่อนๆ ถึงสถานี Kitamoto ของสาย JR Takasaki Line แล้วให้นั่งรถบัส  Ken-chan bus ไป 10 นาที  หรือถ้าไปหลายคนก็ให้นั่งแท๊กซี่ไปดีกว่าค่ะ ประมาณ 1100 เยน  


เวลาบริการ 💓  9. 30-16.00 น .  ทัวร์โรงงานจะจัดวันละ 4 รอบ  9:30, 11:00, 12:30, 14:00  ซึ่งจะใช้เวลาชมประมาณ 1 ชั่วโมง  

หยุดทุกวันศุกร์ เทศกาลโอบ้ง วันสิ้นปีและปีใหม่ และ วันปิดปรับปรุงโรงงาน 

ค่าใช้จ่าย 💓 ฟรี แต่ต้องจองก่อน เพราะจัดให้เข้าชมเป็นรอบๆ https://www.glico.com/jp/enjoy/experience/glicopia/east/

หมายเหตุ 💓  การบรรยายจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีบางโซนมีภาษาอังกฤษบ้าง ซึ่งเพื่อนๆ สามารถทำกิจกรรมตกแต่งป๊อกกี้ด้วยตนเอง และมีกิจกรรมชมโรงแรมและเล่นทายคำถามในขณะทัวร์โรงงานด้วย แต่จะมีการให้ถ่ายภาพตามจุดที่กำหนดเท่านั้น 



โรงงาน Glicopia East แห่งนี้เป็นแหล่งผลิตสินค้าของทาง Glico ในเขต Kanto ซึ่งเพื่อนๆ จะได้ทราบประวัติของทาง Glico รวมทั้งการชมโรงงานในการผลิต Pocky และ Pretz อย่างน่าตื่นตาตื่นใจเลยค่ะ 



การทัวร์โรงงานนั้นจะแบ่งเป็นโซน ๆ ตามนี้ 

💓 ห้องประวัติ Mr. Ri-ichi Ezaki ผู้ก่อตั้ง Glico  รวมถึงการสรรหาวัตถุดิบของ Glico  - ห้ามถ่ายภาพ 

💓 ทัวร์โรงงาน - ห้ามถ่ายภาพ   

💓 ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติ Glico   - ถ่ายภาพได้ 





💓 โซนเล่นเกมตอบคำถามประลองความเร็วและถูกต้อง ใครตอบได้เร็วสุด คะแนะสูงสุด ก็จะมีรางวัลให้ค่ะ - ห้ามถ่ายภาพ  

💓  โซน Mini Factory ซึ่งจะจำกัดจำนวนและเปิดโอกาสให้เด็กๆ  ยกมือก่อนว่าอยากทำไหม 20 คน  ถ้าคนไม่ครบก็ให้โอกาสผู้ใหญ่ทำค่ะ  มีค่าใช้จ่ายคนละ 500 เยนนะคะ 

ซึ่งเราโชคดีพอดีเด็กไม่ครบ เราเลยมีโอกาสได้ทำด้วย - ถ่ายภาพได้เฉพาะตอนที่เริ่มทำเท่านั้นค่ะ 

อุปกรณ์จะมีป๊อกกี้ให้คนละ 2 แท่ง ช๊อกโกแล๊ตร้อน 1 หลอด และน้ําตาลน่ารักๆ ที่ไว้ตกแต่งเค้ก 



เริ่มทำกันเลย ให้เวลา 15 นาทีในการทำป๊อกกี้แท่งเดียวในโลกของเรา ค่ะ 




พอเสร็จแล้วเราได้รับของฝากเพิ่มเป็นเพรสคนละกล่อง และหมอนยางป็อกกี้คนละอันด้วยค่ะ 



เราไปปิดท้ายกันที่ร้านของฝาก ที่บางอย่างจะซื้อได้ที่นี่ที่เดียวค่ะ 










เราไปชมไฟสวยๆ ในงาน  💓 Winter Illumination 2017-2018  💓 ที่สวนสัตว์  Tobu Doubutsu Kouen  กันต่อเลยค่ะ  💓 http://www.tobuzoo.com/global/english/



การเดินทาง 💓  ให้เพื่อนๆ ลงรถไฟสถานี Tobu Dobutsu Koen ออกทาง West Exit แล้วเดิน 10 นาที หรือจะนั่งบัสทาง East Gate ใช้เวลา 5 นาทีค่ะ 

ระยะการจัดงาน  💓  เวลา : 17:00~20:00 น.  ระหว่างวันที่  28 ตุลาคม 2017 – 12 กุมภาพันธ์ 2018

วันหยุดของสวนสัตว์  💓 วันที่ 4・5・11 และ 12 ธันวาคม 2017, วันที่ 9・15・16・22・23・29 และ 30 มกราคม 2018, วันที่ 5 และ 6 กุมภาพันธ์ 2018


ค่าเข้าชมไฟ 💓

 😌 ตั๋ว Illumination (Illumination Pass + Night Ride Pass) ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมต้นขึ้นไป) 3,000 เยน, เด็ก (3 ขวบ – นักเรียนชั้นประถม) 2,000 เยน

😌 ตั๋ว Illumination Pass ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน

ตั๋ว Night Ride Pass (สามารถนั่งเครื่องเล่นได้ไม่จำกัดหลังเวลา 15:00 น. ※จะเป็นจะต้องมีตั๋วสำหรับเข้าภายในสถานที่แยกต่างหาก) ผู้ใหญ่ 2,000 เยน, เด็ก 1,500 เยน




หมายเหตุ 💓  จุดชมการจัดไฟจะเดินไกลจากปากประตูเกือบ 20 นาที อาจต้องเดินเยอะหน่อยค่ะ  แต่ก็เดินแวะชมสัตว์น่ารักๆ ได้ค่ะ 

แต่อันนี้ต้องจ่ายเพิ่มนะคะ 










สำหรับสวนสัตว์ Tobu Doubutsu Kouen จัดเทศกาลไฟประดับ   💓 Winter Illumination 2017-2018  💓 มีประดับไฟ LED กว่า 2 ล้านดวงทั่วทั้งบริเวณค่ะ มีแบ่งเป็นโซนๆ และเป็นซุ้มสวยเลย 
















ซุ้มสวยๆ ค่ะ 






ซุ้มซากุระค่ะ 





เราปิดท้ายทริปวันนี้ที่ร้านอาหารเย็นที่ร้าน WoodBakers  💓  https://woodbakers.owst.jp/en/ ใน Kawagoe กันค่ะ 


การเดินทาง 💓 ลงสถานี Honkawagoe ของสาย Seibu Railway เดินต่ออีก 5 นาที 

เวลาบริการ 💓  11:30 - 15:00 น. และ  17:00 - 22:00 น. หยุดทุกวันพุธ 



ในย่านอิจิบังไกของ Kawagoe ส่วนมากปิดก่อนมื้อเย็น แต่ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่สามารถทานอาหารเย็นได้และมีเมนูภาษาอังกฤษบริการอีกด้วยค่ะ 







นอกจากนี้เพื่อนๆ สามารถสั่งเบียร์ CO-EDO BEER ออริจินอลอันขึ้นชื่อของ Kawagoe ด้วยค่ะ 


ทางทีมงานหวังว่ารีวิวเที่ยว Saitama นี้จะทำให้เพื่อนๆ เห็นภาพการวางแผนเดินทางยามเพื่อนๆ จะมายังสถานที่เที่ยวไม่ไกลจาก Tokyo ก็ขอให้ใส่ Saitama เข้าไปในแผนเดินทางเลยค่ะ 


แล้วพบกันใหม่ 

ทีมงาน Japan Wow