ท่องเที่ยวชมเทศกาลฤดูร้อนที่จังหวัด Akita ในภูมิภาค Tohoku

สวัสดีครับ 

วันนี้ทีมงาน Japan Wow จะพาเพื่อนๆ ไปที่ยวที่จังหวัด Akita กันในยามฤดูร้อนกันครับ 





Akita ตั้งอยู่ในภูมิภาค Tohoku Region หรือ ภาคอีสานของญี่ปุ่น เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าสน และแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติบนที่ราบสูง เพราะมีเทือกเขาล้อมรอบถึง 3 ทิศ 

ส่วนสภาพอากาศของที่นี่ อากาศจะสบายๆ ครับ ทั้งมีดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ส่วนหน้าหนาว ก็จะมีทิวทัศน์ของหิมะสวยๆ เลยครับ 


การเดินทาง 


เพื่อนๆ สามารถใช้ JR East Pass นั่งรถไฟชินคันเซนจาก Tokyo ไปยัง Akita ประมาณ 4 ชม.  ด้วยขบวนเจ้าเป็ดแดง Komachi 







ก่อนจะไปยังอำเภอเมืองของจังหวัด Akita เรามาแวะเที่ยวที่ Kakunodate ก่อน 1 คืนครับ 




เราแวะเอากระเป๋าไปฝากที่ Tourist Information หน้าสถานีก่อน เดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก 




ค่าบริการฝากกระเป๋าเพียง 300 เยนเท่านั้น 




เราสามารถแวะขอข้อมูลและซื้อของที่ระลึกเล็กๆ น้อยได้จากที่นี่ด้วยนะครับ 









เราไปชมเมือง 
Kakunodate  
กันเลย 




ย่าน Kakunodate Samurai House Street นั้น ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งอาคารบ้านเรือนของเหล่าซามูไรสมัยเอโดะ ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนได้ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี บางบ้านได้ปรับเปลี่ยนให้พิพิธภัณฑ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยบ้านแต่ละหลังจะตั้งตามชื่อสกุลของเจ้าของบ้านเดิม





ขณะเดินไปยังหมู่บ้านซามูไร ก็ผ่านร้านนี้ Kakunodate Kabazaiku Densho-kan 
เราแวะกันก่อนนะครับ 






ร้านนี้เป็นทั้งร้านค้าและพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ มีทั้งสินค้าหัตถรรม ที่ทำด้วยเปลือกต้นซากุระ หรือ Cherry bark work หรือ sakura- kawa- zaiku รวมทั้งให้เช่าชุดกิโมโนสวยๆ ให้เช่าด้วยครับ 










บริเวณเช่าชุดกิโมโน 








ส่วนพิพิธภัณฑ์ 









ออกจากร้านขายของที่ระลึกแล้ว ก็แวะทานข้าวกันหน่อยครับ อยู่ในบริเวณย่านหมู่บ้านซามูไรเลย 

ร้านนี้ชื่อว่าร้าน Sakurano Sato 
 เมนูอร่อยของร้านนี้ก็คือข้าวหน้าไก่ไข่ข้น ... อร่อยจริงๆ ครับ   














ทานข้าวเสร็จแล้วก็ไปชมมิวเซียมดีๆ กันเลยที่ Aoyagi Samurai Manor Museum 



Aoyagi Samurai Manor หนึ่งในบ้านอนุรักษ์ที่ได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม ซึ่งมีหลากหลายอาคารกลางสวนอันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น  Main House, the Armory, the Seiryu-an Gallery, the Akita Folk Museum, the Samurai Tools and Utensils Museum, the Antique Museum รวมทั้งร้านขายของที่ระลึก 










































เป็นไงบ้างครับสำหรับการเที่ยวในเมือง Kakunodate  เพื่อนๆ ได้ทั้งความเพลิดเพลินและความรู้กันแล้ว ถึงเวลาไปพักผ่อนและทำกิจกรรมกันต่อยังที่พักแนว Farm Stay กัน 1 คืนก่อนเดินทางต่อนะครับ 


ซึ่งการพักแบบ Farm Stay นั้นเพื่อนๆ จะได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวญี่ปุ่นจริงๆ ในฟาร์มท้องถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรม และลิ้มรสอาหารแบบต้นตำรับพื้นเมืองแท้ๆ จากรสมือชาวญี่ปุ่น ที่บรรจงปรุงอาหารจากวัตถุดิบสด ใหม่ จากธรรมชาติล้วนๆ 




เราไปชมตัวอย่างบ้านพักกันเลยครับ สำหรับที่พักในเมือง Kakunodate ทางทีมงานนำตัวอย่างมาให้ชม 3 หลัง ซี่งแต่ละหลังก็จะตกแต่งต่างกันไป  ทางเจ้าของบ้านก็ไม่ได้พักกับเราแต่อย่างใด แต่จะพักอยู่บ้านข้างๆ ครับ


บ้านหลังที่ 1       


















บ้านหลังที่  2 
















บ้านหลังที่ 3  ที่ทีมงานได้ลองพักดูครับ 


ทางเจ้าของบ้านจะมารับถึงสถานี  ซึ่งบรรยากาศบ้านพักดีมากๆ ครับ 














ตัวอย่างอาหารเย็นครับ 









ตัวอย่างอาหารเช้า 








ตัวอย่างกิจกรรมต่างๆ ของที่พักครับ 

เก็บผักสดๆ มาทำพิซซ่า เป็นอาหารกลางวันกัน












 มาทำพิซซ่าแบบ Homemade กันครับ  






















ทานกันเลยนะครับ  








 หลังจากเราได้พักผ่อนที่ Farm Stay ใน Kakunodate หนึ่งคืนแล้ว วันนี้เราไปจะเดินทางต่อไปยังอำเภอเมือง Akita เพื่อไปชมเทศกาล Akita Kanto Festival กันครับ 








เทศกาลจัดกันตอนเย็น งั้นเราไปเที่ยวรอบๆ เมืองกันก่อนนะครับ 

Akita Citizens Market 


ตลาดนี้เป็นตลาดสดในร่มขนาดเล็กๆ ใกล้ๆ สถานี Akita แต่ของครบเลย สินค้าเด่นๆ  ของ Akita  นอกจากอาหารทะเลแล้ว ก็จะมีปลาแซลม่อนดองเกลือ ถั่วแระ และ เมล่อนครับ 





















สวนสาธารณะ Senshu Park 



ที่สวนนี้เป็นจุดชมดอกซากุระบานอันสวยงาม ตั้งอยุ่ใจกลางเมือง Akita เลยครับ 


สวนสาธารณะนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาท Kubota ในอดีต ซึ่งในปัจจุบันเพื่อนๆ สามารถเห็นประตูไม้ทางเข้าปราสาทและป้อมหอคอย Osumiyagura ที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน 










พอออกมาจากสวน ก็เจอของอร่อยเลยครับเป็นไอศครีมดอกกุหลาบ  จากร้านรถเข็น Babahera ที่มีคุณป้า คุณยายเป็นคนขาย ... โคนละ 200 เยน ... ชื่นใจดีแท้  








สำหรับอาหารเย็นวันนี้ ทีมงานจะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารที่ร้าน Mugendo ซึ่งเมนูดังของเมืองนี้ก็คือ Kiritampo ซึ่งเป็น คือ ข้าวสุกบดแล้วมาพันกับไม้สน จากนั้นจึงนำมาย่างไฟ ก่อนตัดพอดีคำ ใส่ลงในอาหารประเภทหม้อไฟ ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เลยครับ  










ถึงเวลาที่เราไปชมเทศกาล Akita Kanto Festival กันแล้วครับ 

เทศกาลคันโต (Kanto Festival) หรือ เทศกาลโคมไฟ จัดขึ้นในวันที่ 3 – 6 เดือนสิงหาคม เป็นงานเทศกาลแข่งขัน  ทักษะการบังคับเสาไม้ไผ่ที่ประดับประดาด้วยพวงโคมไฟ จะใช้โคมไฟที่ทำจากโครงกระดาษนำมาประกอบต่อกันโดยมีท่อนไม้ไผ่สูงลิบลิ่วกว่า 10 เมตรเป็นโครงแขวนโคม และผู้ถือจะใช้ศีรษะและมือทำให้พวงโคมไฟแต่ละอันทรงตัวอยู่ได้ โดยที่ใช้วิธีคล้ายกับการเล่นกายกรรม และขณะเดินก็จะต้องมีการโชว์ลีลาหวาดเสียวด้วยการใช้ส่วนต่างๆ ประคองโครงและพวงโคมไฟให้สมดุลทั้งวางไว้บนศีรษะ หัวไหล่ หน้าผาก แขน และส่วนอื่นๆ แล้วแต่ตามความสามารถของผู้ถือเพื่อเรียกเสียงปรบมือและเสียงฮือฮาจากผู้ชม โดยในงานมีการใช้คันโตรวมทั้งสิ้นกว่าหนึ่งหมื่นโคม






หลังจากชมเทศกาลเสร็จแล้ว ถ้าเพื่อนๆ อยากได้บรรยากาศร้านกินดื่มญี่ปุ่นโบราณๆ ก็ขอแนะนำ Yataimura แต่แนะนำว่าเพื่อนๆ ต้องสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้บ้างนะครับ ถึงจะสั่งของได้อย่างถูกต้อง และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ 














ก่อนลา Akita ก็แวะซื้อของที่ระลึกน้องสุนัขพันธุ์อาคิตะ (Akita Inu) กันก่อนครับ  สุนัขนี้เป็นสุนัขพันธ์พื้นเมืองของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเป็นสัตว์พันธุ์สงวนของประเทศ 

สุนัขพันธุ์อาคิตะเป็นสุนัขต่อสู้ มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ อย่างที่ทั่วโลกได้ยินถึงเรื่องราวของ “ฮาจิโกะ” ที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของเจ้านายที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว จนมีการสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งในระดับประเทศ และฮอลลีวู้ดเลยทีเดียว  

เพื่อนๆ ยังสามารถดูรายละเอียดการท่องเที่ยวใน Akita ในที่ลิงก์นี้ * http://www.jnto.or.th/attractions/highlight-of-japan/tohoku/akita/  




ถ้าเพื่อนๆ ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวอื่นๆ ในภูมิภาค Tohoku ก็สามารถหาได้ข้อมูลได้จากโครงการ Deep North of Japan ทีลิงก์นี้เลย * http://deepnorthjapan.org/th/



แล้วพบกันใหม่ครับ 

ทีมงาน Japan Wow 


เครดิตข้อมูลประกอบรีวิว * การท่องเที่ยว Akita