เที่ยวไปใน Fukushima ช่วงหน้าหนาวกันค่ะ

สวัสดีค่ะ 

วันนี้ทีมงานของเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว Fukushima ในช่วงหน้าหนาวกันค่ะ 


ที่แรกที่เราจะไปกันก็คือชมวิวหน้าผาหินสวยอายุกว่าล้านปี ที่ Tono Hetsuri กันค่ะ 

การเดินทาง * เดินเท้าจากสถานี  Tono Hetsuri  ประมาณ 10 นาทีค่ะ 


ที่นี่สวยทุกฤดูเลยค่ะ 



นอกจากวิวสวยๆ แล้วยังมีมุมขายสินค้าท้องถิ่นด้วยค่ะ 




เราไปต่อยังหมู่บ้านโบราณ Ouchi-juku กันค่ะ ให้เพื่อนๆ นั่งรถไฟมาลงสถานี Yunogami-onsen ค่ะ 


ทีออนเซนเท้าที่สถานีด้วยค่ะ 


จากนั้นเราก็นั่งบัสไปยังหมู่บ้าน Ouchi-juku กันค่ะ 


ถึงหมู่บ้าน Ouchi-juku  แล้ว 

"หมู่บ้านโออุจิจูคุ" เป็นถนนสมัยเอโดะที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน หลังคามุงของบ้านเก่า ที่ให้ความรู้สึกถึงประวัติศาสตร์ เรียงรายไปด้วยอาหารและร้านขายของฝาก ให้บรรยากาศที่ทำให้ห้วนคิดถึงในอดีต  



เมื่อ พ.ศ.2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโอะอุชิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีนักท่องมาเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้กว่า 1.2 ล้านคนต่อปี


ถ้าหิมะหนาๆ ฟูๆ เราก็จะได้ภาพแบบนี้ค่ะ 


กลางวันนี้เรามาทาน Soba ในหมู่บ้านกันค่ะ เรียกว่า Negi-Soba หรือ โซบะต้นหอมยักษ์


เวลาทานก็ใช้ต้นหอมยักษ์นั่นแทนตะเกียบหรือช้อนได้เลยค่ะ แล้วก็กินต้นหอมนั้นไปด้วยเลย 







ของอร่อยที่ห้ามพลาดที่นี่ก็คือข้าวย่างมิโสะค่ะ 



และที่ขึ้นชื่อของเขต Aizu Wakamatsu ก็ต้องเหล้านานาชนิดค่ะ 




อันนี้อร่อยค่ะ สตรอเบอรี่ เหมาะกับสาวๆ เลย 


ต่อมาเราไปนั่งรถไฟน้องแมวกันไปลงสถานี Ashinomaki-onsen ค่ะ 


มีน้องแมวเป็นนายสถานีชื่อน้องเลิฟและน้องพีชค่ะ 




ด้านหน้าสถานี 



ข้างๆ สถานีมีศาลเจ้าแมวด้วยค่ะ  


ส่วนด้านในชานชลาก็จะมีมุมของคู่รักด้วยค่ะ 


เราจบวันแรกใน Fukushima กับทีพัก Ashinomaki Onsen Okawaso ในเขน   Aizu Wakamatsu กันค่ะ 

ทางไปจอง ซึ่งมีพนักงานคนไทยคอยช่วยเหลือสามารถสอบถามได้ทางเฟสบุ๊คภาษาไทยเลยค่ะ  * https://www.facebook.com/ookawaso.thai/ 


เมื่อเข้ามาถึงล๊อบบี้ก็จะได้ยินเสียง Shamisen  บรรเลงต้อนรับเลยค่ะ 





บรรยากาศห้องพัก 



อาหารเย็นเป็นบุฟเฟต์ค่ะ 












ส่วนกลางคืนก็มีกิจกรรมตำโมจิ ซึ่งทางลูกค้าสามารถร่วมกิจกรรมทั้งนั่งชมและร่วมตำโมจิก็ได้ค่ะ 




ตัวอย่างอาหารเช้าค่ะ 



เช้าต่อมาเราไปต่อยังปราสาท Tsuruga Castle กันค่ะ 



ซึ่งใกล้ๆ กันก็จะมีศูนย์วัฒนธรรมให้เราไปทำวัวแดงสัญลักษณ์ของ Fukushima กันค่ะ 








เสร็จแล้ว 



จากนั้นเราไปแต่งกิโมโนกันทีชั้นสองของตึกเดียวกันนี่ละค่ะ 






ราคาโปรโมชั่นในช่วงนี้นะคะ 


แต่งเสร็จแล้วเราก็ไปเดินเที่ยวชมปราสาทกันค่ะ 



ส่วนกลางวันเราไปทานอาหารพื้นเมืองของเขต Aizu Wakamatsu ที่เรียกว่า Wappa-meshi  ที่ร้าน  Takino กันค่ะ 


Wappa-meshi  เป็นอาหารท้องถิ่นของเมืองAizu wakamatsu  คล้ายๆ เบนโตะ แต่เสิรฟมาในกล่องไม้คล้ายๆ ปิ่นโตบ้านเราค่ะ มีให้เลือกหลายเมนู อร่อยมากมาย 






จากนั้นเราไปทำกิจกรรม Snow Shoes เดินเที่ยวชมหิมะริมทะเลสาบ Goshikinuma ที่เขต Urabandai กันต่อค่ะ 

รายละเอียดค่ะ * https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_2014.html






จากนั้นเราไปพักคืนที่สองใน Fukushima ที่ BANDAI LAKESIDE GUESTHOUSE กลางทุ่งหิมะกันเลยค่ะ 



ขอบอกว่าเป็น Guesthouse แนวอบอุ่นสบายๆ  มีห้องส่วนตัว ห้องทานข้าวและห้องน้ำส่วนกลางค่ะ 



ห้อง Common Room อยู่ชั้นสองค่ะ 


แพคเกจของเราคือีรวมอาหารเย็นและเช้าค่ะ 

อาหารเย็น 



อาหารเช้า 





ช่วงเช้าเราไปต่อกับกิจกรรมหิมะที่ Grandeco ski resort กันค่ะ 

รายละเอียดนะคะ * https://www.grandeco.com/english/snow.html


ส่วนของ Kid Park น่าสนุกมากค่ะ 





ปิดท้าย Fukushima กันที่หมู่บ้านราเมน Kitakata กันค่ะ  ขอบอกว่าอร่อยมากมาย 













ทางทีมงานหวังว่ารีวิวนี้จะทำให้เพื่อนๆ ได้มีข้อมูลดีๆ สำหรับการไปเยือน Fukushima ในหนาวหน้านะคะ 



แล้วพบกันใหม่ค่ะ 

ทีมงาน Japan Wow