ไปเที่ยว Nagasaki กันค่ะ

สวัสดีค่ะ 

หลายคนอาจจะรู้จักนางาซากิเนื่องจากสงคราวโลกครั้งที่สอง ที่เป็นหนึ่งในสองเมืองที่ถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมนูในประเทศญี่ปุ่น แต่นอกจากเรื่องราวนั้นแล้วเนี่ย นางาซากิยังเป็นเมืองท่าสำคัญในการซื้อขายสินค้าจากต่างประเทศและยังเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้านการเผยแพร่ศาสนาด้วยค่ะ โดยถึงแม้ว่าในช่วงหลังสงคราวที่ญี่ปุ่นปิดประเทศไป แต่เมืองนางาซากิยังคงเปิดเพื่อการค้า แลกเปลี่ยนวัฒธรรมกับชาวต่างชาติอยู่ค่ะ ดังนั้นบ้านเมืองในจังหวัดนางาซากิก็จะมีกลิ่นอายผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและชาติอื่นๆ อยู่ด้วย ถึงแม้ว่านางาซากิจะไม่ได้เป็นเมืองที่เน้นการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากเท่าเมืองอื่นๆ แต่ขอบอกเลยว่าประวัติศาสตร์เมืองนี้เนี่ยเข้มข้นมากๆ โดยเฉพาะเรื่องทางด้านศาสนาและอุตสาหกรรมในช่วงเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่นค่ะ


 
อีกสิ่งหนึ่งที่มีเสน่ห์มากๆ ของเมืองนี้เลยก็คือรถรางค่ะ ในเมืองนางาซากิยังเป็นอีกเมืองที่ยังใช้รถรางอยู่ คู่กับรถบัสค่ะ ส่วนการเดินทางมายังจังหวัดนางาซะกิก็ไม่ยาก โดยสามารถนั่งรถไฟ JR สาย Kamome จากสถานีฮากาตะที่ฟุกุโอกะมาลงที่ตัวเมืองนางาซากิ ใช้เวลาแค่สองชั่วโมงเท่านั้นเอง วันนี้เรามาทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดนี้กัน


💖 เก็บสตรอเบอรี่  💖

เก็นสตรอเบอรี่ในสวนคงเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นอาจความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน เพราะสตรอเบอรี่ญี่ปุ่นเนี่ยมันทั้งหอมและหวานชื่นใจมากๆ แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถรับประทานสตรอเบอรี่สดๆ ที่เราเก็บด้วยตัวเองจากต้นแล้วได้ทานทันทีเลย อยากบอกเลยค่ะว่ามันช่างแตกต่างจากสตรอเบอรี่ในห้างอย่างมาก เพราะความกรอบ ความหอม แล้วรสชาติเนี่ยมันระดับแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลย กิจกรรมเก็บสตรอเบอรี่ในสวนมีกระจายทั่วทั้งญี่ปุ่นเลยค่ะ แต่ความหลากกลายของสายพันธุ์ และความอร่อยของแต่ละสวนอาจจะไม่เท่ากัน วันนี้เรามากันที่โอมูระดรีมฟาร์ม (Ōmura Dream Farm) ที่จังหวัดนางาซากิกันค่ะ สวนนี้อยู่ไม่ไกลจากจังหวัดซากะเลยที่สวนนี้นอกจากจะมีสวนสตรอเบอรี่แล้วเขายังมีร้านไอศกรีม และร้านอาหารน่ารักๆ ที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติและวิวทะเลได้ด้วยนะคะ โดยความพิเศษของสวนนี้เนี่ยเขายังมีคลาสสอนทำได้ฟุกุเล็กๆ ที่เราสามารถเอาสตรอเบอรี่ที่เก็บมาจากสวนไปทำได้ฟุกุของเราได้ด้วยค่ะ


พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/53nxtPpWWMPzJY4V7 

เวลาเปิด – ปิด: โซนร้านค้าด้านหน้า เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00 

                   สวนสตรอเบอรี่ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 16:00

เว็ปไซต์: http://www.chouchou.co.jp/ 

ค่าเข้าชมสวน: 300 เยน ต่อคน (อายุ 3 ปีขึ้นไป)

ค่าใช้เก็บสตรอเบอรี่: 200 เยนต่อ 100 กรัม 


💖 สะพานแว่นตา (Meganebashi Bridge) 💖

สะพานแว่นตามากาเนะบาชิ (Meganebashi Brigde) อีกหนึ่งแลนมาร์กแสนโรแมนติกในเมืองนางาซากิ สะพานแห่งนี้เป็นสะพานหินแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นเพื่อใช้ข้ามผ่านแม่น้ำนากาชิมะ (Nagashima) และได้รับการยกย่องว่าเป็นสะพานโค้งที่สวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศเลยค่ะ จุดเด่นของสะพานแห่งนี้คือเวลาเมื่อตัวสะพานสะท้อนกับผิวน้ำจะเกิดภาพสะท้อนขึ้นมาจนเป็นรูปของแว่นตาทรงกลมนั่นเองค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถไปตามหาหินรูปหัวใจที่ถูกซ่อนไว้ในสะพานหินแห่งนี้ด้วยนะคะ ถนนสองเส้นเล็กๆเลียบแม่น้ำนากาชิมะ เป็นทางเดินยอดฮิตของคู่รัก นอกจากนี้ถนนด้านนอกยังถูกตกแต่งกึ่งสวนสาธรณะและมีม้านั่งสำหรับคนที่ต้องการมาเดินเล่นนั่งเล่นชิวๆสบายๆด้วยค่ะ



พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/53nxtPpWWMPzJY4V7/ 

เวลาเปิด – ปิด: 24 ขั่วโมง

เว็ปไซต์: http://www.chouchou.co.jp/ 

 💖 เกาะเดจิมะ (Dejima)  💖

เกาะเดจิมะคือพื้นที่หนึ่งเดียวที่ทางการกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อขายสินค้ากับประเทศญี่ปุ่นในช่วงยุคสมัยเอโดะหรือยุคสมัยที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ ซึ่งเกาะนี้เป็นเกาะที่สร้างขึ้นมาเฉพาะสำหรับการค้าขายกับต่างชาติเท่านั้น เพื่อป้องกันการเผยแพร่ศาสนาอื่นในประเทศ ปัจจุบันถึงแม้ว่าเดจิมะจะไม่ได้เป็นเกาะแล้ว แต่พื้นที่ดั้งเดิมที่เป็นเขตซื้อขายแลกเปลี่ยนก็ยังคงได้รับการรักษาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นได้ชมกันค่ะ 

ภายในเกาะเดจิมะมีอาคารมากมายที่ได้รับการบูรณะแล้วนำสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั้งเรือนรับรองพ่อค้า โรงเก็บน้ำตาล พิพิธภัณฑ์เซรามิค หรือตราชั่งโบราณที่ใช้ชั่งน้ำหนักสินค้าในสมันนั้น




พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/tnNTevEpzqF5QnVw5 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 – 21:00 

เว็ปไซต์: https://nagasakidejima.jp/ 

ค่าเข้าชม: 520 เยน 

 💖 อาหารท้องถิ่นนางาซากิ 💖

เนื่องจากนางาซากิเป็นจังหวัดที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากมาจากชาวตะวันตก อาหารต่างๆ เลยมีความผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับอาหารตะวันตกเป็นอย่างมาก วันนี้เลยพามาแนะนำให้รู้จักกับอาหารโปรตุเกตที่มีเฉพาะที่นางาซากิเท่านั้นค่ะ อาหารจานนี้เนี่ยจะมีทั้งข้าวและสปาเกตตี้ ซุปและสลัด บอกเลยว่าเป็นการรวมกันของอาหารสองวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวมากๆ ค่ะ 


ร้านที่เรามากันวันนี้ชื่อว่าร้าน Attic อยู่บริเวณท่าเรือนางาซากิค่ะ เป็นร้านน่ารักๆ ริมท่าเรือ ที่สำคัญเขายังมีกาแฟสูตรพิเศษของทางร้านด้วยนะคะ สามารถดูเมนูอาหารและรายละเอียดของทางร้านได้จากเว็ปไซต์ด้านล่างเลยค่ะ

พิกัดบน Google map: https://g.page/DeliciousRestaurantAttic?share 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 22:00 

เว็ปไซต์: http://attic-coffee.com/attic 


💖 จุดชมวิวอินะซายามะ  💖

อีกหนึ่งจุดชมวิวเมืองนางาซากิที่ขึ้นชื่อมากๆ ถึงขนาดติด 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในโลกเลยค่ะ รองจากฮ่องกงและโมนาโก โดยที่นี้จะมีตึกวงกลมขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวจังหวัดนางาซากิได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังมีร้านอาหารบริการในตึกนี้อีกด้วย แต่ถ้าหากมาถึงที่นี่แล้วเนี่ยสิ่งที่พลาดไม่ได้คือการขึ้นกระเช้า (Ropeway) เพื่อไปชมวิวเมืองบนภูเขาอินะซายามะค่ะ บอกเลยว่าเวลาที่แนะนำให้มาคือช่วงพระอาทิตย์ตก เพราะมันจะสวยมากๆ สามารถดูรายละเอียดการเดินทางและค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ในเว็ปไซต์ค่ะ นอกจากนี้ภายในเว็ปไซต์ยังมีข้อมูลสภาพอากาศและกิจกรรมต่างๆ อีกด้วยค่ะ


พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/ZEb2tWpQxkCyAd6w8 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 22:00 

เว็ปไซต์: https://www.inasayama.com/ 

ค่าขึ้น Ropeway: Round trip 1,250 เยน  One-way 730 เยน 


💖 Obama Onsen - Hot Foot 105 💖

ออนเซ็นแช่เท้ากลางแจ้งใกล้กับภูเขาอุนเซ็น ที่ชื่อว่า Hot foot 105 เนี่ยมีที่มาจากอุณหภูมิของน้ำร้อนจากออนเซ็นยูดานะ (Yudana) ที่อยู่ใกล้เนี่ยมากๆ ร้อนถึง 105 องศาเซลเซียส และความยาวของอ่างแช่เท้าก็ยาวถึง 105 เมตรค่ะ เนื่องจากน้ำร้อนที่นี่เนี่ยร้อนมากจริงๆ ดังนั้นน้ำที่เราชาเท้าคือน้ำที่ถูกผสมให้ความร้อนลดลงมาแล้วเพื่อความสบายเท้าค่ะ นอกจากแช่เท้าแล้วยังมีร้านค้าเล็กๆ ขายไข่สำหรับต้มในบ่อน้ำร้อนด้วยในราคา 200 เยนค่ะ 



พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/gWzkSeiivBzt6pix8 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:30 – 18:00 

เว็ปไซต์: https://obama.or.jp/ 


💖 บ่อออนเซ็นนรก (Unzen Jikogu) 💖

บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่เกิดจากการครุกรุ่นของภูเขาไฟอุนเซน และไอร้อนกลิ่นกำมะถันที่ลอยขึ้นมาตลอดทางเดิน เป็นภาพที่แสดงได้อย่างชัดเจนว่าสถานที่นี้เปรียบเสมือนกับฉากของนรกจริงๆ ในอดีตบ่อน้ำพุร้อนอุนเซนยังมีประวัติความเป็นมาว่าเป็นสถานที่สังหารผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ในช่วงต้นทศวรรษ 1600 โดยในสมัยนั้นศาสนาคริสต์ถือว่าเป็นศาสนาต้องห้าม ใครก็ตามที่นับถือศาสนานี้จะถูกสังหารโดยการถูกโยนลงไปในบ่อน้ำพุร้อนนรกแห่งนี้ ว่ากันว่ามีผู้ยังคงยึดมั่นกับศาสนาและถูกสังหารในที่แห่งนี้ถึง 33 คนเลยทีเดียว ในปัจจุบันบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ถือเป็นอุทยานแห่งชาติ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอกนิยม รวมถึงเมืองชิมาบาระแห่งนี้ยังเป็นเมืองออนเซ็นชื่อดังมาตั้งแต่สมัยเมจิอีกด้วย


พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/84BATi755DhzcTGVA 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:30 – 17:00 

เว็ปไซต์: http://www.unzen.org/tourism/spot1.html 

  

💖 ปราสาทชิมาบาระ (Shimabara Castle) 💖

ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะแต่ถูกทำลายลงเนื่องจากสงครามในช่วงสมัยเมจิ แต่ได้มีการบูรณะตัวปราสาทและสภาพแวดล้อมขึ้นมาใหม่ค่ะ เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของผู้ครอบแคว้น ในปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในที่จัดแสดงข้าวของในยุคสมัยโบราณ รวมถึงอาวุธที่ใช้ในสงครามด้วยค่ะ ปราสาทนี้เคยถูกยึดโดยกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสในเมืองนางาซากิเนื่องจากถูกจำกัดการนับถือศาสนาในสมัยนั้น ในปราสาทยังมีกิจกรรมมากมาย และอีเว้นท์ประจำปีด้วยค่ะ สามารถดูรายละเอียดได้จากเว็ปไซต์ด้านล่างเลย


พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/NvhsCpnXbEJBJiCM8 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:30 

เว็ปไซต์: http://shimabarajou.com/ 

ค่าเข้าชมปราสาท: 550 เยน


 💖 ซุปโมจิร้านฮิเมมัสสึ (Himematsu-ya)  💖

นางาซากิเนี่ยถือว่าเป็นเมืองที่หลากหลายทางวัฒนธรรมและอาหารมากๆ เลยค่ะ อีกหนึ่งอาหารท้องถิ่นที่ใครมาเที่ยวชิมาบาระแล้วต้องลองแน่ๆ ก็คือกูโซนิ (Guzoni) ซึ่งเป็นซุปโมจิที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยกลุ่มผู้นำในช่วงสงครามต่อต้านการปกครอง แต่นอกจากเมนูซุปแล้วเนี่ยที่ร้านนี้เข้าก็มีรายการอาหารอื่นๆ มากมายเลยค่ะ 

พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/AkpbtHtxGAo2wpa48 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11:00 – 17:00 

เว็ปไซต์: http://www.himematsuya.jp/ 


💖 ร้านอิโนะฮาระ (Inohara Kanamonoten) 💖

ร้านขายเครื่องมือเครื่องใช้ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ร้านอิโนะฮาระเปิดมานานมากๆ แล้วตั้งแต่ปี 1887 ที่บอกว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาเนี่ยเพราะเจ้าของร้านเขาเลือกแต่ของที่ดีที่สุดในโลกชนิดนั้นๆมาขายค่ะ รวมถึงของหายยากต่างๆ ด้วย 


ทางด้านหลังร้านยังเป็นคาเฟ่สไตร์ญี่ปุ่นเล็กๆ ที่มีเมนูขึ้นชื่อคือน้ำแข็งใสราดมัชฉะถั่วแดงค่ะ เนื่องจากชิมาบาระเนี่ยเป็นเมืองแห่งน้ำที่นี่เลยมีน้ำพุธรรรมชาติที่คนในพื้นที่สามารถนำไปใช้ไปดื่มได้ฟรีเลยค่ะ 

พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/ctgMZnPRzM1ekJVB7 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ตั้งแต่เวลา 11:00 – 18:00 

เว็ปไซต์: https://www.inohara.jp/ 

💖 Shimeiso Spring Water Garden 💖

เนื่องจากที่ชิมาบาระขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำ ที่นี่จึงมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่ทางระบายน้ำสองข้างทางมีปลาคราฟเต็มไปหมด ระหว่างทางที่เดินก็จะเห็นน้องๆ ว่ายในน้ำใสๆ ดูแล้วสบายตามากๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีคฤหาสน์สไตร์ญี่ปุ่นที่มีบ่อปลาคราฟขนาดใหญ่ภายในสวนด้วย และยังเป็นต้นกำเนิดน้ำตามธรรมชาติที่ไหลอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยแต่ละวันจะมีน้ำไหลออกมาจากตาน้ำนี้ถึง 3,000 ตันเลยค่ะ 


พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/vYMxF97Xx9Y2ruzB9 

เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ตั้งแต่เวลา 09:00 – 18:00 

เว็ปไซต์: http://www.city.shimabara.lg.jp/page943.html 

ค่าเข้าชมสวน: 310 เยน


💖 ท่าเรือชิมาบาระ (Shimabara port) 💖

หลายๆ คนที่มาเที่ยวอาจจะวางแผนการท่องเที่ยวในคิวชูด้วยรถไฟ รถยนต์ หรือรถบัสเป็นส่วนมาก หรืออาจวางแผนเที่ยวแค่จังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ กัน เพราะการเดินทางจากนางาซากิด้วยรถไฟหรือรถยนต์ไปที่จังหวัดคุมาโมโต้ มันต้องอ้อมไปเยอะมากๆ แต่ที่จริงแล้วเราสามารถข้ามจากนางาซากิไปคุมาโมโต้ได้ง่ายๆ ภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมงด้วยเรือข้ามฟากจากท่าเรือชิมาบาระ ไปที่ท่าเรือคุมาโมโต้ค่ะ อยากบอกว่าเราชอบการเดินทางแบบนี้มากๆ เพราะมันสะดวก รวดเร็ว และประหยัดมากๆ เลยค่ะ ที่สำคัญที่ท่าเรือนี้ยังมีร้านของฝากจากจังหวัดนางาซากิมากมายให้เลือกซื้อกลับไปด้วย แต่อยากจะบอกเอาไว้อีกอย่างค่ะ ว่าอย่าลืมซื้อข้าวเกรียบแท่งๆ ขึ้นเรือไปด้วยนะคะ เพราะบนดาดฟ้าเรือเนี่ยมีฝูงนกนางนวลบินวนรอขนมจากเราอยู่ค่ะ บอกเลยว่าถึงแม้ว่าบนนั้นลมจะแรงมากๆ จนพวกน้องๆ ยังบินเขว แต่ก็ยังบินมาคาบข้าวเกรียบโดยไม่โดนมือเราเราเลยค่ะ แม่นจริงๆ 


เพื่อนๆ สามารถตรวจสอบเวลาการเดินเรือ และเส้นทางการมาท่าเรือชิมาบาระได้ในเว็ปไซต์นะคะ เพราะแต่ละช่วงเวลาเดินอาจจะแตกต่างกันบ้างค่ะ นอกจากนี้หากใครเดินทางโดยไม่มีรถส่วนตัว สามารถติดต่อประชาสัมพันธ์ก่อนออกเดินเรือให้เรียกแท็กซี่มารับที่ท่าเรือคุมาโมโต้ได้เลยค่ะ 

พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/3o5Md9RLacoZ6wRd9 

เวลาเปิด – ปิด: มีรอบเดินเรือทุกวัน วันละ 8 เที่ยว หรือสามารถดูตารางอัปเดรตได้ในเว็ปไซต์

เว็ปไซต์: https://www.kyusho-ferry.co.jp/diagram/ 

ค่าโดยสาร: 890 เยน ต่อคน หากมีรถด้วยอัตราค่าเดินทางจะขึ้นอยู่กับชนิดของรถ 

จบกันไปแล้วกับการท่องเที่ยวในจังหวัดนางาซากิ หวังว่าทุกคนจะชอบและได้ข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับจัดทริปสนุกๆ ในเร็วๆ นี้นะคะ  นางาซากิยังมีอีกหลายที่มากๆ ที่รอทุกคนไปสัมผัสอยู่ค่า

เพื่อนๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคิวชูได้ที่ 

การท่องเที่ยวคิวชู (Kyushu Tourism Promotion Organization) – 

https://th.welcomekyushu.com/journey-through-kyushu/

https://www.facebook.com/onsenislandkyushuth


แล้วพบกันใหม่

ขอบคุณค่ะ